วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

10 รับ 100

 การปลูกข้าวนาดำการปลูกข้าวนาดำ หมายถึง การปลูกข้าวนาสวนในสภาวะพื้นที่ลุ่มน้ำขัง โดยใช้ต้นกล้าข้าวกระทำปักดำลงไปในดินแปลงนา ซึ่งจะมีขั้นตอนการของการทำนาแยกประเภทออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเริ่มต้นกล้า และระยะปักดำ โดยในแต่ระยะจะสามารถนำเครื่องจักรกลเกษตรมาใช้ ฉะนั้น


การทำนา


การทำนาเพื่อให้เป็นผลิตผลสูงแถมยังมีปัจจัยสำคัญหลายอย่าง ดังเช่น การ ปลูกด้วยข้าวพันธุ์ดี ขั้นตอนการปลูกและดูแลรักษาดี มีการคุ้มครองขจัดโรค และแมลงศัตรูข้าว เกิดการกำจัดวัชพืช มีการบรรจุปุ๋ยในนาข้าว เกิดการรักษาระดับน้ำ ในนา ข้าวพันธุ์ดีจะได้ผลิตผลสูง เมื่อได้มีแนวทางการปลูก และดูแลรักษาดีเท่านั้น โดยเหตุนี้ ผู้ปลูกข้าวจำเป็นจะต้องมีความรู้และมีความเข้าใจว่า ข้าวพันธุ์ดีที่รัฐบาลผลักดันให้ผู้ที่ทำนาปลูกนั้น 


ควรได้รับขั้นตอนปลูกและชมแลรักษายังไง ที่เป็นอย่างนี้ ด้วยเหตุว่าข้าวพันธุ์ดีมีเค้าหน้าภาพต้นไม่เหมือนกับพันธุ์พื้นเมือง ที่คนที่ปลูกข้าวปลูกกันมาตั้งแต่แต่ก่อน ข้าวพันธุ์ดีในที่นี้หมายถึง พันธุ์ข้าวที่มีลักษณะภาพต้นดี ยกตัวอย่างเช่น มีความสูงราวๆ ๑๐๐-๑๓๐ เซนติเมตร จากพื้นดินถึงปลายรวงของรวงที่สูงที่สุดแตกกอมาก ใบสีเขียวแก่ ตั้งดิ่ง ปลายใบไม่โค้งงอ และเป็นพันธุ์ ที่มีความต้านทานต่อโรคและแมลง สนองตอบต่อปุ๋ยสูง คือ ให้ผลิตผลสูงเพิ่มขึ้น เมื่อบรรจุปุ๋ยมากขึ้น เพราะฉะนั้น การปลูกข้าวพันธุ์ดี เพื่อที่จะให้สำเร็จิตผลสูงนั้นควรปฏิบัติโดยเหตุนี้


 การปลูกข้าวไร่


ซึ่งก็คือ การทำนาบนที่ดอน และไร้น้ำขังในพื้นที่ปลูก ชนิดของข้าวที่ปลูก เรียกว่า ข้าวไร่ พื้นที่ดอนโดยมาก ยกตัวอย่างเช่น เชิงเทือกเขา มักจะไม่มีลำดับชั้น คือ สูงๆ ต่ำๆ ก็เลยไม่อาจจะไถเตรียมพร้อมดิน และปรับเกรดได้ง่ายๆ เหมือนกับพื้นที่ราบ ดังนี้ ผู้ที่ทำนานิยมจะปลูกแบบหยอด โดยตอนแรกกระทำตัดหญ้าและต้นไม้เล็กออก ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะปลูก แล้วใช้หลักไม้ปลายแหลมเจาะดินเป็นหลุมเล็กๆ ลึกประมาณ ๓-๔ เซนติเมตร ปากหลุมมีขนาดกว้างพอ ที่จะหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวลงไปได้ ๕-๑๐ เมล็ด 


หลุมนี้มีระยะห่างกันประมาณ ๒๕ เซนติเมตร ควรต้องหยอดเมล็ดพันธุ์โดยทันที ภายหลังที่ได้เจาะหลุม ภายหลังจากหยอดเมล็ดพันธุ์แล้ว จะใช้เท้ากลบดินปากหลุม เมื่อฝนตกลงมา เมล็ดได้รับความชุ่มชื้น ก็จะงอกและเจริญเติบโตฯลฯข้าว เนื่องดังที่ดอนไร้น้ำขัง และไม่มีการชลประทาน 


การปลูกข้าวไร่ก็เลยต้องใช้น้ำฝนเพียงอย่างเดียว พื้นดินที่ปลูกข้าวไร่จะแห้งและขาดน้ำทันที เมื่อสิ้นฤดูฝน ดังนี้ การทำนาไร่จึงควรใช้พันธุ์ที่มีอายุเบา โดยปลูกในต้นฤดูฝน และแก่เก็บเกี่ยวได้ ในปลายฤชมฝน การทำนาไร่คนที่ทำนาควรต้องหมั่นขจัด วัชพืช เนื่องด้วยที่ดอนโดยมากจะมีวัชพืชมากยิ่งกว่าที่ลุ่ม เนื้อที่ที่ใช้ทำนาไร่ในประเทศไทย มีปริมาณเล็กน้อยและมีปลูกมากในภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคพระอาทิตย์ออกเฉียงเหนือ ภาคกลางปลูกข้าวไร่เล็กน้อยมาก


 การปลูกข้าวไร่


ซึ่งก็คือ การทำนาบนที่ดอน และไร้น้ำขังในพื้นที่ปลูก ชนิดของข้าวที่ปลูก เรียกว่า ข้าวไร่ พื้นที่ดอนส่วนใหญ่ เช่น เชิงภูเขา ส่วนมากจะไม่มีลำดับชั้น คือ สูงๆ ต่ำๆ จึงไม่สามารถไถเตรียมดิน และปรับลำดับได้อย่างสะดวกสบาย เหมือนกับพื้นที่ราบ ฉะนั้น ผู้ที่ทำนาโดยส่วนมากจะปลูกแบบหยอด โดยขั้นแรกทำการตัดหญ้าและต้นไม้เล็กออก ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะปลูก แล้วใช้หลักไม้ปลายแหลมเจาะดินเป็นหลุมเล็กๆ ลึกราวๆ ๓-๔ เซนติเมตร ปากหลุมมีขนาดกว้างใหญ่พอ ที่จะหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวลงไปได้ ๕-๑๐ เมล็ด 



หลุมนี้มีระยะห่างกันโดยประมาณ ๒๕ เซนติเมตร  10 รับ 100 จำเป็นจะต้องหยอดเมล็ดพันธุ์โดยทันที ภายหลังที่ได้เจาะหลุม หลังจากหยอดเมล็ดพันธุ์แล้ว จะใช้เท้าทายกลบดินปากหลุม เมื่อฝนตกลงมา เมล็ดได้รับความชุ่มชื้น ก็จะงอกและเจริญเติบโตเป็นต้นข้าว เนื่องดังที่ดอนไม่มีน้ำขัง และไม่เกิดการชลประทาน


 การทำนาไร่จึงจำเป็นต้องใช้น้ำฝนเพียงอย่างเดียว พื้นดินที่ปลูกข้าวไร่จะแห้งและขาดน้ำทันที เมื่อสิ้นฤดูฝน ฉะนั้น การทำนาไร่จึงต้องควรใช้พันธุ์ที่มีอายุเบา โดยปลูกในต้นฤชมฝน และแก่เก็บเกี่ยวได้ ในปลายฤดูฝน การทำนาไร่ผู้ที่ทำนาจำเป็นที่จะต้องหมั่นขจัด วัชพืช เพราะเหตุว่าที่ดอนส่วนมากจะมีวัชพืชมากยิ่งกว่าที่ลุ่ม เนื้อที่ที่ใช้ทำนาไร่ในประเทศไทย มีจำนวนน้อยและมีปลูกมากในภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคพระอาทิตย์ออกเฉียงเหนือ ภาคกลางปลูกข้าวไร่นิดหน่อยมาก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

mega c4

 เล่นได้เลยไม่ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ใช้งานสะดวกสบายจนมัดใจนักเดิมพันได้แบบอยู่หมัด เพราะการให้บริการตรงไปตรงมา ไม่มีอ้อมค้อม ไม่ล็อคโบนั...