wowgame369 แม้กระนั้นในด้านใกล้ ก็ยังสามารถรับแดดที่สะท้อนกลับออกมาจากโลกได้อยู่ ในชื่อการเกิด ‘แสงสว่างโลก’ หรือ ‘เอิร์ธไชน์’ (earthshine) ซึ่งจะมีผลให้ผู้พินิจบนโลกอีกฝั่งหนึ่ง สามารถมองเห็นแสงจางๆจากด้านเวลากลางคืนของพระจันทร์ได้ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อพิจารณาจากโลกจะมองเห็นพระจันทร์มืดสนิท แม้กระนั้นแม้พวกเราได้ไปยืนอยู่บนพระจันทร์แล้วหันกลับมามองโลกก็จะมองเห็นได้ว่าโลกนั้นมีแสงไฟอยู่ เพราะฉะนั้นการเกิด ‘แสงสว่างโลก’ นี้ก็เลยทำพวกเรายังคงมองเห็นผิวพระจันทร์ได้แทบทั้งหมด แม้ว่าจะถูกเงาของโลกบังก็ตาม (การเกิด ‘แสงสว่างโลก’ นี้จะพิจารณาก้าวหน้าในตอนวันขึ้น 1–3 เย็น หรือ แรม 12–14 เย็น ซึ่งเป็นตอนๆจันทร์ดับ)
ในเวลาเดียวกัน ถ้าเกิดพวกเรามองเห็น wowgame369 พระจันทร์เต็มดวงในตอนจันทร์เพ็ญ พระจันทร์ทางฝั่งไกลจากโลกทั้งสิ้นจะมืดสนิทจากแดด (โดยตรง) อย่างสมบูรณ์ ทั้งในความหมายของคำว่ามืดในทางวิธีแล้ว ยังสามารถใช้เรียกเพื่อความรู้ความเข้าใจในความหมายของ ‘ที่อับสัญญาณ’ ได้อีกด้วย ดังเช่นว่าการติดต่อสื่อสารของของยานอวกาศจะถูกขวางได้ ถ้าเกิดยานกำลังเขยื้อนอยู่ทางฝั่งไกลของพระจันทร์ เป็นต้นว่า การติดต่อสื่อสารระหว่างกันในภารกิจอะพอลโล่ ฯลฯ ที่นักบินอวกาศได้เลือกลงเหยียบแต่ว่าผิวทางฝั่งด้านใกล้
นอกจากไปจากเทคโนโลยีต่างๆท้ายที่สุดแล้ว ในระยะไกลอีก 1 ล้านปีด้านหน้า ถ้าหากมนุษยชาติยังอยู่พวกเราจะไปไหน จุดมุ่งหมายของพวกเราเป็นยังไง วัตถุประสงค์ของพวกเราเป็นอยากทำความเข้าใจในธรรมชาติ จักรวาลที่พวกเราอาศัยอยู่ ตั้งแต่ไหนแม้กระนั้นไร ตั้งแต่มนุษย์คนแรกที่มองว่าตะวันขึ้นตกอย่างไร พวกเราต้องการจะรู้เรื่องในจักรวาล เพราะว่าถ้าเช่นนั้นความฝันในที่สุดของมนุษยชาติก็คือ ผมเห็นว่ามันเป็นการรู้เรื่องทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล
แน่ๆว่าพวกเราจำเป็นต้องศึกษาค้นพบเทคโนโลยีที่ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเรา แม้กระนั้นโน่นมิได้มีความหมายว่า พวกเราไม่อาจจะทำความเข้าใจซึ่งส่งผลให้เกิดจุดหมายปลายทางในที่สุดไปพร้อมเพียงกันได้ พวกเราไม่มีความจำเป็นต้องเลือก และก็พวกเรามีบุคคลที่ปรับปรุงเทคโนโลยีให้ชีวิตดียิ่งขึ้น พร้อมๆกับผู้ที่ค้นหาความลับ ความรู้ความเข้าใจของจักรวาลไปพร้อมเพียงกันด้วย ไม่ผิดอะไร รวมทั้งพวกเราจำต้องไม่ลืมเลือนเพราะ หลายๆอย่างที่บางทีอาจจะฟังมองไม่มีสาระด้วยในตอนแรกๆอย่างแนวความคิดความเกี่ยวข้องของไอสไตน์ ทราบไปเพราะเหตุใดว่าเวลา นาฬิกามันเดินถอยหลังอย่างที่พวกเราไม่มีทางสัมผัสได้ ปรากฏว่า ขณะนี้ถ้าหากพวกเราไม่เคยรู้แนวความคิดความสัมพันธ์ ดาวเทียม GPS พวกเราจะใช้ไม่ได้เลย
SOFIA ได้ศึกษาค้นพบสเปกตรัมการดูดกลืนที่เป็นคุณสมบัติเฉพาะของโมเลกุลของน้ำในหลุมอุกกาบาต Clavius ซึ่งเป็นหลุมอุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดหลุมหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นได้จากโลก แล้วก็อยู่ในรอบๆที่แสงตะวันส่องถึง นับว่าเป็นหลักฐานที่แจ่มแจ้งว่ากระทั่งบนผิวด้านสว่างของพระจันทร์ที่ถูกส่องสว่างด้วยแสงสว่างพระอาทิตย์ก็สามารถเจอน้ำได้เหมือนกัน มากยิ่งกว่านั้นการศึกษาและทำการค้นพบคราวนี้ยังการันตีได้ว่าบนพระจันทร์มีน้ำ 100 ถึง 412 ppm หรือเท่ากันกับน้ำ 1 ขวด ต่อดินพระจันทร์ทุกๆ1 ลูกบาศก์เมตร เป็นการศึกษาค้นพบที่ท้าความรู้เกี่ยวกับเกิดของน้ำบนวัตถุในระบบสุริยะ โดยความน่าจะเป็นหนึ่งอาจจะมีการเกิดขึ้นจากอุกกาบาตที่บรรทุกน้ำได้พุ่งเข้าชนมายังบประมาณนพระจันทร์ แม้กระนั้นอีกความน่าจะเป็นหนึ่งเป็นอาจจะมีการเกิดจากการรวมตัวกันระหว่างกลุ่มไฮดคอยกสิล กับกลุ่มไฮดคอยกสิลด้วยกันอีกหมู่ หรือจากไฮโดรเจนที่มาจากดวงตะวัน เกิดมาเป็นน้ำโดยตลอดบนผิวพระจันทร์

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น